Main Menu
BANGKOK PORTAL

  • ไทย
  • Eng

สาระน่ารู้

โรคไข้ปวดข้อยุงลาย หรือ โรคชิคุนกุนยา

โรคไข้ปวดข้อยุงลาย หรือ โรคชิคุนกุนยา (Chikungunya หรือ Chikungunya fever) เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชิคุนกุนยา โดยมียุงลายเป็นพาหะนำโรคเช่นเดียวกับโรคไข้เลือดออกหรือโรคเดงกี่ และโรคติดเชื้อไวรัสซิกา อาจพบผู้ป่วยที่ป่วยทั้งโรคไข้เลือดออกและโรคไข้ปวดข้อยุงลายพร้อมกัน ซึ่งอาการของทั้ง 2 โรคนี้คล้ายคลึงกัน แต่โรคไข้เลือดออกจะมีอาการรุนแรงมากกว่า ทำให้หลายครั้งผู้ป่วยไม่ถูกวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคไข้ปวดข้อยุงลาย แต่ถูกวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกเพียงโรคเดียว จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ความชุกที่แท้จริงของโรคไข้ปวดข้อยุงลายไม่แน่ชัด
คำว่า ชิคุนกุนยา มาจากภาษาถิ่นอาฟริกา หมายถึง อาการบิดเบี้ยวของข้อ เพราะอาการสำคัญของโรคนี้ คือ ข้อบวม และข้ออักเสบจนเกิดการผิดรูป โดยมีรายงานครั้งแรกในช่วง ค.ศ. 1952 - 1953 (พ.ศ. 2495 - 2496) จากประเทศทานซาเนีย
โรคไข้ปวดข้อยุงลาย เป็นโรคที่พบได้ในทุกทวีป ทั้ง อาฟริกา เอเชีย ยุโรป และอเมริกา ในทวีปเอเชียพบได้บ่อยในประเทศอินเดีย และประเทศต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมทั้งประเทศไทย
ในประเทศไทย พบโรคไข้ปวดข้อยุงลายครั้งแรกที่กรุงเทพฯ ในปี ค.ศ. 1958 (พ.ศ. 2501) ซึ่งปัจจุบัน พบโรคนี้ได้ในทุกภาค และมีการระบาดหลายครั้งในประเทศไทย รวมทั้งในช่วง ค.ศ. 2008 - 2009 (พ.ศ. 2551 - 2552) ซึ่งพบว่ามีการระบาดในหลายจัวหวัดทางภาคใต้และแพร่กระจายไปยังจังหวัดอื่น ๆ ทั่วประเทศ
โรคไข้ปวดข้อยุงลาย พบได้ในทุกช่วงอายุ รวมทั้งทารกในครรภ์เมื่อมารดาติดเชื้อไวรัสนี้ (กรณีนี้พบได้น้อย) ไปจนถึงผู้สูงอายุ และโอกาสเกิดโรคใกล้เคียงกันทั้งในเพศหญิงและเพศชาย
- วิธีการติดต่อ
โรคไข้ปวดข้อยุงลายเป็นโรคติดต่อ และก่อการระบาดได้เสมอ เป็นโรคที่มีวงจรติดต่อที่เรียกว่า “คน - ยุง - คน” โดยมียุงลายบ้าน (Aedes aegypti) และยุงลายสวน (Aedes albopictus) เป็นพาหะหลักเช่นเดียวกับโรคไข้เลือดออกหรือโรคเดงกี่ และโรคซิกา เมื่อยุงลายตัวเมียกัด และดูดเลือดผู้ป่วยในช่วงที่มีเชื้อชิคุนกุนยาไวรัสอยู่ในเลือด ไวรัสชนิดนี้จะเข้าไปแบ่งตัวเพิ่มจำนวนขึ้นในกระเพาะของยุง จากนั้นก็จะเคลื่อนที่เข้าสู่ต่อมน้ำลาย เมื่อยุงตัวนี้ไปกัดคน ไวรัสในต่อมน้ำลายจะเข้าสู่กระแสเลือดคนที่ถูกกัด ทำให้คนนั้นเกิดอาการของโรควนเวียนเป็นวงจรของการติดต่อ และการระบาดแต่ในช่วงที่ไม่มีการระบาดคาดว่ายุงอาจได้เชื้อจากคน หรือ จากสัตว์ที่เป็นพาหะโรค ต่อจากนั้น จึงเริ่มวงจรระบาดเมื่อยุงที่มีเชื้อกัดคน จนเกิดเป็นวงจร “คน-ยุง-คน” และจากการวิจัยพบว่ายุงลายสามารถถ่ายทอดเชื้อชิคุนกุนยาไวรัสจากแม่ยุงสู่ลูกยุงได้อีกหลายรุ่น ยุงลายทั้งสองสายพันธุ์ มักเป็นยุงที่พบได้ทั่วไปทั้งในเมือง และในต่างจังหวัด ออกหากินในเวลากลางวัน มีลายขาวดำตามลำตัว และตามขา ชอบวางไข่ในน้ำสะอาด (โดยเฉพาะน้ำฝน) ที่ขังอยู่ในภาชนะต่าง ๆ ทั้งที่มนุษย์สร้างขึ้น และเกิดตามธรรมชาติ เช่น กระถางต้นไม้ อ่างน้ำ โอ่งเก็บน้ำ รอยแตกตามซอกหิน กาบดอกมะพร้าว ใบไม้ที่ร่วงบนดิน แม้ว่าจะมีน้ำขังเพียงเล็กน้อยก็สามารถวางไข่ได้ โดยไข่จะเป็นตัวยุงภายใน 7 - 10 วัน ยุงลายบ้านมักพบภายในบ้านบริเวณที่มืด อับลม และมีความชื้น ส่วนยุงลายสวน มักพบบริเวณนอกบ้านโดยเฉพาะบริเวณที่เป็นร่มเงาหรือมีต้นไม้ และลมไม่แรง โรคไข้ปวดข้อยุงลายนอกจากติดต่อผ่านยุงลายที่เป็นพาหะนำโรคแล้วหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อชิคุนกุนยาก็สามารถถ่ายทอดเชื้อไปยังทารกในครรภ์ได้ และยังสามารถติดต่อกันได้ผ่านทางเลือดอีกด้วย
อ่านบทความเต็มได้ที่เว็บไซต์กรมควบคุมโรค : https://www.ddc.moph.go.th/disease_detail.php?d=103...